- ข่าวเชียงใหม่
- No Comment
(มีคลิป) โจรแสบย่องขนโครงเหล็ก แถมเด็ดดอกกัญชาไปอีก
(มีคลิป) โจรแสบย่องขนโครงเหล็ก แถมเด็ดดอกกัญชาไปอีก
ภาพวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์สุดอุกอาจของกลุ่มคนร้าย ที่ก่อเหตุขโมยทรัพย์สินของประชาชนกลางวันแสกๆ ไม่เว้นกระทั่งโครงเหล็กที่เจ้าของผู้เสียหายวางไว้ริมรั้ว โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรือนเพาะปลูกพืชกัญชาแห่งหนึ่ง ที่อยู่ภายในบริเวณซอยรุ่งโรจน์ อะไหล่ยนต์ ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ ช่วงเวลาประมาณ 14.16 น. ของวานนี้ (17 ก.พ.66) โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ได้มีรถยนต์กระบะสีเทา ทะเบียนเชียงใหม่ เข้ามาจอดบริเวณริมรั้วเหล็กด้านนอก จากนั้นมีชายอายุประมาณ 40-50 ปี เดินลงมาจากรถทำทีเดินดูลาดเลาบริเวณโดยรอบซักครู่หนึ่ง หลังจากนั้นจึงถอยรถเข้ามาใกล้กับจุดที่วางโครงเหล็กติดกับรั้ว แล้วมีชายอีก 2 คน ลงมาจากรถแล้วช่วยกันขนย้ายโครงเหล็กที่วางอยู่บริเวณดังกล่าว ขึ้นกระบะหลังรถใช้เวลาอยู่ประมาณ 30 นาที จนกระทั่งขนโครงเหล็กจนหมด มิหนำซ้ำยังแอบเด็ดยอดดอกของต้นกัญชาที่อยู่ติดกับรั้วเหล็กอย่างใจเย็น แล้วพากันขึ้นรถกระบะคันดังกล่าว ขับออกจากที่เกิดเหตุไปในที่สุด
โดยหลังเกิดเหตุ ทางด้านเจ้าของผู้เสียหายได้นำเรื่องราวดังกล่าว และคลิปเหตุการณ์ที่คนร้ายทั้ง 3 คน ก่อเหตุมาโพสต์ลงบนโลกโซเชียลเพื่อขอความช่วยเหลือติดตามเบาะแสคนร้าย และเตือนภัยกับประชาชน โดยเพียงไม่นานมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแชร์คลิปเรื่องราวกันเป็นจำนวนมาก ขณะที่ทางด้านผู้เสียหายพยายามติดตามตัวคนร้าย และสอบถามกับคนที่อยู่โดยรอบที่เกิดเหตุ กลับไม่มีใครรู้จักและพบเห็นคนร้ายมาก่อน และไม่คาดคิดว่ากลุ่มคนเหล่านี้ จะกล้าก่อเหตุในช่วงกลางวันแสกๆ อีกทั้งในระหว่างนั้นก็ยังมีคนงานที่กำลังทำงานอยู่บริเวณนั้น แต่ทางด้านคนงานที่ทำงานคิดว่าทางผู้เสียหาย ได้จ้างวานให้คนมาขนโครงเหล็กออกไปเท่านั้น
ขณะที่ต่อมา ทางผู้สื่อข่าวได้ติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น และสอบถามกับทางผู้เสียหาย ทราบชื่อคือ นายกฤษณัฐ อายุ 33 ปี เจ้าของโรงเพาะปลูกพืชกัญชาที่เกิดเหตุ เล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งตนและคนที่อยู่ในบริเวณนี้ก็ยังตกใจ เพราะเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งตอนแรกตนก็คิดว่าทางคนงานของฝั่งตรงข้าม ที่กำลังปรับปรุงพื้นที่นั้นเป็นคนขนโครงเหล็กออกไป แต่ทางฝั่งนั้นก็คิดว่าตนใช้ให้คนงานมาขนโครงเหล็กที่วางไว้จุดนั้นออกไปเช่นกัน ทำให้เกือบเกิดการเข้าใจผิดกัน ทั้งกับตนและทางคนงานอีกฝั่งหนึ่ง
โดยเหล็กที่ถูกเอาไปก็ไม่ใช่ชิ้นเล็กๆ ที่เตรียมไว้ทำโรงเรือนขนาด 8×20 เมตร มีมูลค่ารวมเกือบ 100,000 บาท ถูกเอาไปอย่างไร้ร่องรอย และทางตนได้ไปคุยกับทางเจ้าของพื้นที่ ที่เป็นคนดำเนินการก่อสร้างข้างๆ และคนงานที่ทำงานในบริเวณนั้น ก็ไม่มีใครทราบเรื่องแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบตนคาดว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ อาศัยการแฝงตัวเข้ามาในช่วงจังหวะที่คนงานกำลังทำงานอยู่ และในช่วงนั้นก็มีรถกระบะและรถบรรทุกขับ เข้า-ออก อยู่ตลอดเวลา โดยคนร้ายก็เข้ามาในลักษณะของคนงาน อีกทั้งยังรู้ว่ามีกล้องวงจรปิดและพยายามหลบกล้อง และเมื่อสบโอกาสก็พากันยกโครงเหล็กขึ้นรถ เหมือนคนงานที่มาทำงาน จากนั้นก็ขับรถออกไป
นายกฤษณัฐ ผู้เสียหาย บอกอีกว่า หลังเกิดเหตุตนก็ได้รับความเดือดร้อน เพราะตนที่เป็นคนรับผิดชอบและต้องแจ้งให้กับเจ้าของโครงเหล็กทราบว่าถูกขโมยไป ซึ่งตนมองว่าก่อนก่อเหตุครั้งนี้ ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ และทุกคนเมื่อทราบเรื่องก็ตกใจกันมาก ทั้งตนทั้งคนงานที่อยู่ในบริเวณนี้ รวมทั้งชาวบ้านในละแวกนี้ เพราะคนร้ายที่ก่อเหตุทำตัวเหมือนคนมาทำงาน ไม่คาดคิดว่าจะกล้าก่อเหตุ และทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อทรัพย์สิน อีกทั้งของที่หายไปก็ไม่ใช่ของชิ้นเล็กๆ เป็นโครงเหล็กขนาดใหญ่ ที่ไม่คิดว่าอยู่ดีๆ จะมีคนกล้าขนออกไปอย่างหน้าตาเฉย
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนได้นำหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิงแล้ว แต่จากการตรวจสอบหลักฐานหมายเลขทะเบียน รถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ กลับตรวจไม่เจอ อีกทั้งรูปพรรณใบหน้าของคนร้ายสวมเสื้อสีเขียวที่ก่อเหตุ กล้องวงจรปิดก็จับภาพใบหน้าไว้ได้ชัดเจน แต่เมื่อตนเอาภาพไปให้คนในละแวกดูทุกคนต่างบอกว่าไม่รู้จัก และไม่เคยพบเห็นชายคนดังกล่าวมาก่อน ซึ่งตนคาดว่ากลุ่มคนที่ก่อเหตุครั้งนี้ น่าจะมาดูลาดเลาแล้วก่อนหน้านี้ และหาโอกาสเหมาะมาก่อเหตุ เพราะโครงเหล็กที่หายไปนั้น ก็วางไว้ที่บริเวณดังกล่าวมาแล้วราวๆ เกือบ 1 ปี เพื่อเตรียมที่จะทำโรงเรือน ซึ่งตนก็ไม่คาดคิดว่าจะถูกขโมยไป ทั้งที่ในที่เกิดเหตุมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้หลายตัว
โดยตนอยากฝากถึงบุคคลที่พบเห็น หรือหากคนร้ายนำโครงการเหล็กในลักษณะที่ปรากฎในคลิปไปขายที่ไหนก็ขอให้ตรวจสอบให้ดี และหากมีเบาะแสก็สามารถแจ้งมาที่ตนได้ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-968-5206 (ฟิว) หรือสามารถแจ้งเบาะแสกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ด้านหนึ่งในคนงานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงนั้นตนก็กำลังตัดต้นไม้อยู่ใกล้กับที่คนร้ายก่อเหตุ แต่ตนก็ไม่ทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นคนร้าย และนึกว่าเจ้าของได้ใช้ให้คนงานมาขนโครงเหล็ก เพราะคนร้ายที่มาก็ดูไม่มีท่าทางพิรุธอะไร และช่วยกันขนโครงเหล็กขึ้นรถอย่างใจเย็น แต่พอมาทราบทีหลังว่าเป็นขโมยก็รู้สึกตกใจ และไม่คิดว่าจะกล้ามาก่อเหตุ ทั้งที่เป็นช่วงกลางวันแสกๆ และในระหว่างนั้นก็มีคนงานที่กำลังทำงานอยู่ที่บริเวณนี้หลายคนด้วย