จับชาวบ้านเผาขุนแม่ลายหลังประกาศห้ามเผาได้เพียง 3 วัน

จับชาวบ้านเผาขุนแม่ลายหลังประกาศห้ามเผาได้เพียง 3 วัน
จับชาวบ้านเผาขุนแม่ลายหลังประกาศห้ามเผาได้เพียง 3 วัน
วันที่ 17 กพ 66 ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า ทางตำรวจ ปทส.จับชาวบ้านเผา พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ หลังจังหวัดเชียงใหม่ ประกาศห้ามเผาได้เพียง 3 วันเพื่อเตรียมพื้นที่ทำไร่ เลื่อนลอยเจ้าหน้าที่ดำเนินคดี ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง กำหนดเขตควบคุมไฟป่า , แผ้วถาง เผาป่า และครอบครองทำประโยชน์ ป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่อำเภอฮอด ให้รางวัลนำจับ 1 หมื่นบาทสำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแส ผู้ที่กระทำความผิดจุดไฟเผาป่าในพื้นที่
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดเชียงใหม่-ฮอด,ลำพูน กก.4 ปทส. , เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.33 , เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปพ.บก.สส.ภ.5 , เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อหลวง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้เชียงใหม่ 3 ได้ลงพื้นที่ลาดตระเวนตรวพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ และจับกุมตัวนายนายตรีวิทย์ ปันติ๊บ อายุ 18 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ พร้อมกับไฟแชก 1 อัน ซึ่งขณะนั้นนายตรีวิทย์กำลังเผาป่าเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกพืชไร่ ทำให้เกิดกลุ่มควันปกคลุมไปทั่วบริเวณจนมาสารถสังเกตุเห็นได้ในระยะไกล หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวพบว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย เขตบ้านวังกอง ต.บ่อหลวง อ.ฮอด ถูกบุกรุก เนื้อที่ประมาณ จำนวน 2 ไร่ 2 งาน 52 ตารางวา
โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาว่ากระทำความผิด ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต,ครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง มาตรการป้องกันการจุดไฟเผาในที่โล่งฯ ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อหลวง ดำเนินคดีต่อไป
ด้านพ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส.เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส.กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยในสังกัดร่วมกันบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน PM 2.5 และเพิ่มความเข้มงวดในการปราบปรามการกระทำความผิด พรบ.ป่าไม้ หลายพื้นที่ในภาคเหนือที่ประสบปัญหาหมอกควันปกคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ อ.ฮอด อ.ดอยเต่า อ.แม่แจ่ม และอ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ที่พบจุดความร้อนจำนวนมากจนส่งผลให้ค่ามลพพิษในอากาศสูงติดต่อกันนานเกือบครึ่งเดือน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วสนธิกำลังลงพื้นที่เน้นย้ำการตรวจสอบจับกุมผู้ที่ลักลอบเผาป่าในพื้นที่เสี่ยงซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ ป่าสูงชัน ที่ยังมีชาวบ้านบางส่วนที่ลักลอบการเผาพื้นที่ป่าเพื่อเตรียมทำการเกษตรอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อตรวจสอบพร้อมดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง และสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในที่สุด ซึ่งหลังจากนนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ป้องปราม ตรวจจับผู้ที่กระทำความผิดอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์หมอกควันPM 2.5 จะดีขึ้น
ขณะที่อำเภอฮอด เอาจริง ตั้งรางวัลนำจับ 1 หมื่นบาทสำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแส ผู้ที่กระทำความผิดจุดไฟเผาป่าในพื้นที่ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้กับชาวบ้านช่วยเป็นเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ในการป้องกันปัญหาหมอกควันไฟป่าโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ด้าน นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอกัลยาณิวัฒนา พร้อมด้วยปลัดอำเภอ นำกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ในสังกัดกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอกัลยาณิวัฒนา ที่ 26 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ (ฉก.พยัคฆ์ไพร) กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) เจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้ในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกัลยาณิวัฒนาร่วมตรวจสอบพื้นที่ป่าเขตบ้านเด่น ต.บ้านจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา หลังนายทุนเข้าบุกรุกพื้นที่ป่า และก่อสร้าง อาคารฯ ตรวจสอบพื้นที่ป่าได้รับถูกบุกรุกประมาณ 8 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้กระทำความผิดเพื่อแจ้งความดำเนินคดี ต่อพนักงานสอบสวน สภ.กัลยาณิวัฒนา ดำเนินคดี ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน และ ธรรมชาติ
ความรู้สึกทั้งหมด

1

แชร์เลย :