ผู้ชม : 146

เชียงใหม่ จัดโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ให้บริการประชาชนในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด

Admin WPN 02 23 กุมภาพันธ์ 2023

จังหวัดเชียงใหม่ จัดโครงการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พบประชาชน นำบริการต่างๆ ในรูปแบบ One Stop Service ออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ อำนวยความสะดวก บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด

วันนี้ (23 ก.พ. 66) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดโครงการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พบประชาชน หรือ “โครงการจังหวัดเคลื่อนที่” ประจำปี 2566 ที่ บริเวณสนามกีฬาเทศบาลตำบลดอยสะเก็ด อำภอดอยสะเก็ด เพื่อจัดหน่วยบริการประชาชนเคลื่อนที่แบบบูรณาการระดับจังหวัด คอยอำนวยความสะดวก บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่พี่น้องประชาชนในอำเภอดอยสะเก็ด รวมทั้งให้ส่วนราชการต่าง ๆ ได้พบปะและรับฟังปัญหาความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อเป็นข้อมูลในการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชน

โดยการจัดงานครั้งนี้ ได้นำหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ทั้งระดับจังหวัดและอำเภอ จำนวนกว่า 40 หน่วยงาน ออกหน่วยให้บริการด้านต่าง ๆ ในรูปแบบ One Stop Service ตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นการสนับสนุนและให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ประกอบด้วย การมอบทุนกองทุนพัฒนาชนบทในพระราชูปถัมภ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 10 ทุน การมอบมอบทุนการศึกษาและถุงยังชีพให้เด็กครอบครัวยากจนและด้อยโอกาส จำนวน 50 ทุน มอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับประชาชน จำนวน 200 ชุด มอบผ้าห่ม จำนวน 100 ชุด และมอบพันธุ์ปลา จำนวน 30,000 ตัว

ในการนี้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบนโยบายและขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องการขับเคลื่อนโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ที่อยากให้ทุกคนมีบทบาทในการทำประโยชน์ให้กับสังคม เริ่มจากการพัฒนาบ้านเรือนและพื้นที่ชุมชนให้สวยสะอาดอยู่เสมอ ทำด้วยใจรัก ทำได้ทุกช่วงเวลา โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันสำคัญต่างๆ ขณะเดียวกัน ในช่วงนี้เป็นช่วงที่จังหวัดเชียงใหม่มักจะประสบปัญหาหมอกควันและไฟป่า จึงขอความร่วมมือประชาชนให้งดการเผาในที่โล่งทุกรูปแบบ พร้อมทั้งช่วยกันเฝ้าระวัง สอดส่องดูแลไฟป่า ลดการเผาขยะ และช่วยกันทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหมอกควัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย ส่วนในด้านปัญหายาเสพติด ได้ขอให้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา โดยใช้กลไกประชารัฐ และการร่วมเป็นเครือข่ายระดับหมู่บ้านชุมชนในการเฝ้าระวังป้องกันและแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้ลูกหลานต้องตกเป็นทาสของยาเสพติด จนเกิดเป็นปัญหาต่างๆ ของสังคมตามมา โดยให้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นหลักในการดำเนินวิถีชีวิต