เลขาฯ ป.ป..ส. ร่วม ผบ ตร เมียนมา ประชุม ทวิภาคี ครั้ง 24 ส่งตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ

เลขาฯ ป.ป..ส. ร่วม ผบ ตร เมียนมา ประชุม ทวิภาคี ครั้ง 24 ส่งตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ
เลขาฯ ป.ป..ส. ร่วม ผบ ตร เมียนมา ประชุม ทวิภาคี ครั้ง 24 ส่งตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยถึงความร่วมมือในการส่งตัวผู้ต้องหายาเสพติดรายสำคัญ หลบหนีหมายจับไปซ่อนตัวฝั่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา กลับสู่ประเทศไทย เพื่อรับโทษตามกฎหมาย
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ให้ข้อมูลว่า “สืบเนื่องจากการประชุมทวิภาคีไทย-เมียนมา ครั้งที่ 24 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ณ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยมี พลตรี ซิน มีน ทัก ผู้บัญชาการตำรวจเมียนมา และเลขาธิการคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุม ยาเสพติด (Central Committee for Drug Abuse Control : CCDAC) พลตำรวจจัตวา วิน หน่าย (Pol. Brig. Gen. Win Naing) ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดและเลขาธิการร่วม CCDAC และคณะผู้บริหารของ CCDAC และในส่วนของประเทศไทย มีพล.ต.ทปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภาค 5 เข้าร่วม
โดยในการประชุมฯ ได้ตกลงถึงความร่วมมือในการส่งตัวผู้ต้องหาชาวไทยที่หลบหนีหมายจับ จำนวน 1 ราย คือ นายเจษฎา (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญระดับสั่งการที่หลบหนีหมายจับไปซ่อนตัวฝั่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการส่งตัวนั้น แจ้งว่าจะส่งตัวผู้ต้องหารในวันที่ 9 มีนาคมนี้ เวลา 12.00 น. ณ ด่านศุลกากรแม่สาย แห่งที่ 2 จังหวัดเชียงราย ซึ่งตนจะมอบหมายให้ สำนักงาน ปปส. ภาค 5 เป็นผู้ประสานรับตัวต่อไปเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
คดีของนายเจษฎาฯ นั้นเหตุเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจยาเสพติดห้วยไร่ สภ.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 คน พร้อมด้วยของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 60,000 เม็ด ซุกซ่อนมากับรถยนต์ที่ขับผ่านด่านตรวจยาเสพติดห้วยไร่ จากการขยายผลการจับกุม สามารถออกหมายจับนายเจษฏาฯ ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง และนายเจษฎาฯ ได้หนีหมายจับหลบซ่อนตัวตามแนวชายแดนฝั่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาและถูกจับกุมตัวได้
นอกจากนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังได้กล่าวเน้นย้ำอีกว่า การประชุมทวิไทย-เมียนมาเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ต้องมีความร่วมมือ ร่วมใจ ในเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้สามารถตัดวงจรยาเสพติดได้เด็ดขาด โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเพื่อสืบสวนขยายผลจับกุมนักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่มีบทบาทในประเทศไทยกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา นายวิชัย ฯ กล่าว
แชร์เลย :