ถึงคิวเชือด ‘ตำรวจเทา’

ถึงคิวเชือด ‘ตำรวจเทา’
จะถือเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสของ บิ๊กเด่น- พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ (นรต.38) ผบ.ตร.คนที่ 13 ขึ้นมา กุมบังเหียน ยุทธจักรสีกากี ในนามรหัส “พิทักษ์” หลังเข้า รับตําแหน่งผ่านมา 5 เดือนเต็ม ต้องเจอสารพัดมรสุมถาโถมกระหน่ํา สํานักงานตํารวจแห่งชาติ มีข่าวใหญ่แบบต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลาย ปี 2565
จากโดน “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” เปิดแผลปัญหา แก๊งมังกรข้ามชาติ แผ่อิทธิพลสยายปีกเข้ามาทํา ธุรกิจสีเทา ในเมืองไทย จนโกยเงินร่ํารวยมหาศาลไปฟอกสารพัดรูปแบบ เหมือนกลายเป็นตลกร้าย กวาดล้างแก๊งมังกร แต่มีตํารวจสารพัดหน่วยติดร่างแหถูกดําเนิน คดีไปด้วยกว่า 100 นาย กระทั่งล่าสุดมาเจอระเบิดตูมใหญ่เจอแฉ พนันออนไลน์เครือข่ายใหญ่ของไทย ที่มีกลุ่มตํารวจเทาเข้าไปอยู่เบื้องหลังด้วย
รอบนี้ บิ๊กเด่น เลยได้โอกาสพิสูจน์ฝีมือ กําราบตํารวจเทา พร้อมเครือข่ายพนันออนไลน์ แบบจัดเต็มคาราเบล ไฟเขียวให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เป็นหัวหอกนํากําลัง ตํารวจ สอบสวนกลาง (CIB) เปิดยุทธการทลายอาณาจักร “ซัว มาเฟียคา สิโนออนไลน์” ลุยจู่โจมเครือข่ายในพื้นที่ 6 จังหวัดรวด (กรุงเทพฯ, จันทบุรี, สมุทรปราการ, ชลบุรี, นนทบุรี และ ปทุมธานี) ประเดิม จับกุมผู้ต้องหาชุดแรก 6 ราย ดําเนินคดีร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือ ทําอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาฯ และร่วมกันฟอกเงิน พร้อมตรวจอายัดทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 1,400 ล้านบาท
กลายเป็นอีกปฏิบัติการ ตํารวจจับตํารวจเทา หลังจาก พล.ต.ท.จิรภพ ระดมทีมตํารวจสอบสวนกลางตรวจสอบข้อมูล ประวัติอย่างลับ ๆ ของ สารวัตรซัว หรือ พ.ต.ท.วสวัตติ มุครสกุล อดีต สว.ฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สํานักงานส่งกําลังบํารุง มาได้สักพักใหญ่ จนพบหลักฐาน สารวัตรซัว และบริษัทในเครือ “เป็นต่อกรุ๊ป” กว่า 30 บริษัท เชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกับเครือข่าย เว็บพนันออนไลน์รายใหญ่อันดับต้น ๆ ของไทย

งานนี้ตํารวจทุกหน่วยของสอบสวนกลาง ร่วมกันสืบสวน ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตรวจค้นทั้งบริษัท-บ้าน จับกุมลูกน้อง คนสนิทของสารวัตรซัว พบหลักฐานสําคัญ บริษัทในเครือเป็นต่อ กรุ๊ป ส่วนใหญ่อยู่ย่านพื้นที่รามอินทรา ถูกจัดตั้งขึ้นบังหน้าเพื่อ สนับสนุนธุรกิจพนันออนไลน์แทบทั้งสิ้น อาทิ บริษัทผลิตเกมส์, ผลิต โปรแกรม, พัฒนาซอฟต์แวร์, จัดการบัญชี,

 

 

จดทะเบียนพาณิชย์, จัดการเงิน, แลกเปลี่ยนเงิน, สหกรณ์ และสถานบันเทิง ฯลฯ

ขยายผลการตรวจสอบบริษัทนอมินี ถึงกับตกตะลึง พบ มากถึง 60 บริษัท และมีบุคคล 150 คนเกี่ยวข้องกับสารวัตรซัว จึง รวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับสารวัตรซัวและเครือข่ายฯ 14 หมายจับคดีพนันออนไลน์
หากย้อนไทม์ไลน์ก่อนหน้าจะมีการเปิดปฏิบัติการ สารวัตร ซัวยังโผล่ออกมาตอบโต้ข้อมูลผ่านทางสื่อโซเชียล พร้อมภาพตัวเอง ขณะไปท่องเที่ยวหรูอยู่ต่างประเทศ พอถูกออกหมายจับแม้จะหยดุการเคลื่อนไหว แต่คงไม่ทันแล้วเพราะบรรดานักสืบโซเชียลหลากหลายเพจใต้ดิน ต่างค้นหาข้อมูลของสารวัตรซัว และเครือข่ายฯ ออก
มาตีแผ่ให้เห็นกันแบบจัดเต็ม ข้อมูลของ บรรดาดาวดังในแวดวง พนันออนไลน์เมืองไทย แทบจะเชื่อมโยงรู้จักกันเกือบหมด ภาพ ข้อมูลอาจมีจริงบ้างเท็จบ้างปนเปกันไป แต่ได้เห็นโฉมหน้า หัวโจก พนันออนไลน์ ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ จะทรง ๆ เดียวกัน หมด ตั้งแต่หัวจรดเท้า รสนิยมใช้แบรนด์เนม เสื้อกางเกงรองเท้า นาฬิกาหรู รถซูเปอร์คาร์ มีสาวสวยคู่กาย ท่องเที่ยวต่างประเทศ ฯลฯ 
ที่สําคัญนอกจาก สารวัตรซัว และลูกน้องกําลังถูกไล่เช็กบิล แล้ว ยังมีอีกเครือข่ายพนันออนไลน์รายใหญ่ ที่มีคนสีกากีเข้าไป พัวพันหลงเหลืออยู่อีกมากน้อยเพียงใด? นับเป็นโอกาสดีที่ บิ๊กเด่น จะได้เรียกภาพลักษณ์กลับคืนมาสู่สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ขุดราก ถอนโคน “ตํารวจเทา” ที่เป็นเพียงส่วนน้อยมาฝังตัวใช้เครื่องแบบ บังหน้า อาศัยช่องโหว่กฎหมายข้อมูลที่ตัวเองรู้แล้วกระทําผิดเสียเองจนสร้างชื่อเสียให้กับองค์กรตํารวจ
สังคมต่างเกาะติดจับตาปฏิบัติการครั้งนี้ หวังว่าคงไม่เป็นนอกจากจะปราบปรามพนันออนไลน์เครือข่าย หวังว่าคงไม่เป็นมวยล้มต้มคนดู!! นอกจากจะปราบปรามพนันออนไลน์เครือข่ายใหญ่ยังได้กวาดล้าง “ตํารวจเทา” ไปในตัว ที่สําคัญจะได้เป็นไปตาม วิสัยทัศน์ที่ บิ๊กเด่น เคยให้เอาไว้ “เป็นตํารวจมืออาชีพ ทํางานเชิง รุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน
เชิงผา
ขอบคุณที่มา   ข่าวเดลินิวส์
 
แชร์เลย :