สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 9 ก.พ. 66 เวลา 7.00 น.

💦สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 9 ก.พ. 66 เวลา 7.00 น.
+ ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ภาคเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกปานกลางบริเวณ จ.ตราด (29 มม.) จ.นครราชสีมา (19 มม.) และ
จ.นราธิวาส (16 มม.)
+ น้ำใช้การแหล่งน้ำทุกขนาด 36,413 ล้าน ลบ.ม. (63%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 29,226 ล้าน ลบ.ม. (61%)
+ คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
+ กรมชลประทาน ระดมเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าไปกำจัดผักตบชวาและวัชพืชอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ลดปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำให้กับพื้นที่การเกษตรในช่วงฤดูแล้ง ดังนี้
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลายชุมพล บริเวณคลองส่งน้ำสายซอย PR.-23.7R. (C-14) กม.10+500 หมู่ที่ 6 ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก

+พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ปทุมธานี
วานนี้ (8 ก.พ. 66) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามการดำเนินการโครงการด้านทรัพยากรน้ำ
พื้นที่ จ.ปทุมธานี โดยเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ
จ.ปทุมธานี พร้อมด้วย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช.
ในฐานะรองผู้อำนวยการ กอนช. และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ณ ศาลากลาง จ.ปทุมธานี ก่อนเดินทางลงพื้นที่เพื่อรับฟังสภาพปัญหา
มอบหมายให้ สทนช. จ.ปทุมธานี และกรมชลประทาน
ร่วมบูรณาการแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่ให้ครอบคลุม
ทุกปัญหา และให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเร่งดำเนินการตามแผนงานโครงการป้องกันอุทกภัยในเขตจังหวัดปทุมธานี เพื่อลดความเสียหายและผลกระทบของพื้นที่ในช่วงฤดูน้ำหลาก รวมทั้งให้กรมทางหลวงดำเนินการตามแผนงานปรับปรุง แก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อให้สามารถเร่งระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว โดยให้ทุกหน่วยงานร่วมกันเตรียมความพร้อมและดำเนินการตามแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมและแผนเผชิญเหตุของแต่ละหน่วยงาน และมอบแนวทางการพัฒนาคลองหมายเลข 3 จ.ปทุมธานี โดยกรมชลประทานและกรมทางหลวง ร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาและการแก้ไขปัญหา โดยการเพิ่มศักยภาพของคลองตลอดสาย ให้สามารถระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เกิดการไหลเวียนของน้ำ ลดปัญหาน้ำเน่าเสียในคลอง และให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการโครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำถาวรปากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดไว้ รวมถึงโครงการอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่โดยเร็ว