ขับหลง! แจ้งข้อหา-ปรับ ‘เน็ตไอดอล’ หัวร้อน ฉุนปรี่ตบ-ทำร้ายพนักงานจอดรถสุวรรณภูมิ

ขับหลง! แจ้งข้อหา-ปรับ ‘เน็ตไอดอล’ หัวร้อน ฉุนปรี่ตบ-ทำร้ายพนักงานจอดรถสุวรรณภูมิ
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 13 มี.ค. ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ น.ส.ธาราทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี พร้อมกับเพื่อนสาวและเจ้าของรถเช่า เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา กรณี น.ส.ราวัลย์ (สงวนนามสกุล) พนักงานอาคารจอดรถสนามบินสุวรรณภูมิ นำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องว่าถูก น.ส.ธาราทิพย์ ขับรถเก๋งสีขาว จอดรถลงมาทำร้ายร่างกายและตบตี โดยสาเหตุมาจากความไม่พอใจที่ถามหาทางออกแล้วพนักงานรายนี้ให้สังเกตหรืออ่านป้ายทางออกของลานจอดรถ ทำให้ไม่พอใจหัวร้อนลงมาก่อเหตุ ตามหลักฐานคลิปวงจรปิด และคลิปมือถือของผู้เสียหาย เหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำ(วันที่13มี.ค.) ที่ผ่านมา
โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกันไกล่เกลี่ยกัน ก่อนที่ น.ส.ราวัลย์ จะออกมาเปิดเผยว่า หลังพบกับทางคู่กรณี ก็ได้มีการเข้ามาขอโทษและยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งยอมจ่ายเงินเยียวยาเป็นเงิน 20,000 บาท ให้กับตน ส่วนสาเหตุที่ทำลงไปนั้น อ้างว่าเป็นการเข้าใจผิดกับคำพูดของตน ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้พูดจาขึ้นเสียงหรือถ้อยคำไม่สุภาพแต่อย่างใด อีกทั้งตนเองทราบดีกับงานบริการเช่นนี้
น.ส.ธาราทิพย์ เปิดใจยอมรับผิดและขอโทษสังคมกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยยอมรับว่าได้ยินคำตอบจากพนักงานคนดังกล่าวแล้วรู้สึกไม่ดี ประกอบกับตนหาทางออกไม่เจอจนขับรถวนหลายรอบทำให้เกิดอารมณ์ฉุนเฉียว อีกทั้งพอมาเจอพนักงานยกโทรศัพท์ถ่ายคลิปอีก ทำให้ควบคุมตัวเองไม่อยู่ หลังเกิดเรื่องจนกระทั่งช่วงค่ำทางบริษัทเช่ารถติดต่อไปให้เข้ามาพบตำรวจ จึงเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงความรับผิดชอบต่อคู่กรณีในครั้งนี้

ขณะที่ เพื่อนรุ่นพี่คนสนิท เปิดใจกับนักข่าวว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิต เคยเข้ารับการรักษามาแล้ว และเคยคิดจะกระโดนสะพานมาแล้วครั้งนึง จนกระทั่งครอบครัวส่งไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ และกลายเป็นเน็ตไอดอลในโซเชียว ที่ผ่านมาในกลุ่มบรรดาเพื่อนๆ มักจะเจออารมณ์หัวร้อนของผู้ก่อเหตุบ่อยครั้ง ใครพูดไม่เข้าหูหรือทำอะไรไม่ถูกใจก็จะเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวใส่ทันที พอมาทราบข่าวในวันนี้ยิ่งตกใจจึงตัดสินใจเดินทางมาเป็นเพื่อน
พ.ต.ท.กวีรัตนะ บังคมธรรม รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เผยว่า ในส่วนของการเยียวยากับผู้เสียหายเป็นการเจรจากันของทั้งสองฝ่าย ส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย และสั่งปรับในอัตรา 2,000 บาท ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ขอบคุณที่มา  ข่าวเดลินิวส์
แชร์เลย :